ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันสร้างลานเจดีย์และองค์พญานาคทางเข้าพระเจดียศรีทศพลบรมไตรโลกนาถ ณ วัดน้ำเขียว (บุญช่วยสามัคคีธรรม) ต.กองทูล อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อถวายเป็นไตรรัตนบูชา

เพชรหน้าทั่ง



"เพชรหน้าทั่ง" เป็นคำๆ หนึ่งที่หลายๆคนไม่ทราบว่าคืออะไร บางคนอาจจะคิดว่า เพชรหน้าทั่ง คือเพชรชนิดหนึ่ง หรือบางคนอาจคิดว่า เป็นลักษณะการเจียระไนเพชร รูปแบบหนึ่ง แต่ทั้งหมดเป็นความเข้าใจที่ผิด ที่จริงแล้วเพชรหน้าทั่งคือแร่โลหะผิวเรียบที่มีลักษณะของผลึกคล้ายๆ กับลูกเต๋า เพชรหน้าทั่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "ไพไรท์" (Pyrite) หรือ FeS2 คำว่าไพไรท์ มาจาก Pyr ในภาษากรีก ซึ่งแปลว่าไฟ เพราะเมื่อนำก้อนไพไรท์ ไปตีกระทบกับเหล็กกล้า และ
จะเกิด ประกายไฟขึ้นมาสีของผิวโลหะชนิดนี้ ในระยะแรกจะมีสีขาว วาวคล้ายเนื้อเหล็ก แต่เมื่อทิ้งให้สัมผัส กับอากาศนานๆ จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองใกล้เคียงกับสีของแร่ทองมาก คนสมัยก่อน จึงนึกว่าเป็นทองคำ ไพไรท์จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทองคนโง่ (Fool Gold)
สำหรับความแตกต่างของไพไรท์ กับทองคำนั้น หากนำแร่ทั้งสองในขนาดเท่ากัน มาชั่งจะพบว่าไพไรท์จะเบากว่า นอกจากนี้ไพไรท์ จะมีผงแร่ออกสีเขียวดำ หรือน้ำตาลดำ ต่างจากทองคำ ซึ่งจะเป็นสีทองเสมอ
เราพบแร่ชนิดนี้ ในหลายจังหวัดของไทย เช่น สงขลา เพชรบูรณ์ ฉะเชิงเทรา สระบุรี ลพบุรี นครราชสีมา แพร่ และพบเป็นแหล่งใหญ่ ที่อำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช และอำเภอบันนังสตาร์ ในจังหวัดระยา ส่วนในต่างประเทศ จะพบแร่ไพไรม์ที่ประเทศ สเปน อิตาลี โปรตุเกส เยอรมัน ฯลฯ เป็นที่สังเกตว่าขนาดของผลึกไพไรท์ในเมืองไทย จะมีขนาดของผลึกเล็กกว่า ไพไรท์ที่พบในต่างประเทศ อย่างเช่น ผลึกไพไรท์ของสเปน จะมีขนาดใหญ่ และมีรูปลักษณะลูกบาศก์โดยชัดเจน
สำหรับประโยชน์ ทางอุตสาหกรรม ไพไรท์จะถูกนำไป ใช้ทำกรดกำมะถัน และใช้ในการทำสีย้อม ทำหมึก ทำยารักษาเนื้อไม้ และย่าฆ่าเชื้อโรค
ในเมืองไทยมีความเชื่อกันว่า "เพชรหน้าทั่ง" หรือไพไรท์นี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีการนำเพชรหน้าทั่ง มาประดับเป็นหัวแหวน เพื่อใช้เป็นเครื่องรางของขลัง
จากเท่าที่สืบทราบ มาจากคนโบราณ เขาลือว่าเพชรหน้าทั่ง เป็นเครื่องราง ของขลัง อุปมาดั่งเหล็กไหล กันเสนียดจัญไร กันศาสตราคมทั้งหลาย ที่จะเข้า หาตัวทั้งหมด จึงนำมาใช้ในการ พระราชสงคราม และความเชื่อ ในสมัยกรุงศรีอยุธยานี้ ก็ได้ส่งผล มาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นด้วย ที่เมืองนครศรีธรรมราช ก็จะมีเพชรหน้าทั่ง เหมือนกัน เขาจะทำเป็น แหวนนะโม ทำเป็นแหวน 2 กษัตริย์ หรือทำเป็น เครื่องรางของขลัง
และนอกจากการนำเพชรหน้าทั่ง มาทำแหวนแล้ว ที่นครศรีธรรมราช พัทลุง ก็มีการนำเพชรหน้าทั่ง มาหุ้มด้วยทอง หรือเงินนำมาประกอบ เข้ากับสร้อย สองกษัตริย์ด้วย